ประเด็นร้อน

2,100 ล้านบาท ของหาย หรือทุจริต?

โดย ACT โพสเมื่อ Aug 01,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า - -

 

คอลัมน์ กวนน้ำให้ใส : โดย สารส้ม

 

ถ้าเป็นบริษัทเอกชนทั่วไป หรือเป็นบริษัทของตาสีตาสา หากเกิดกรณีว่า "ของหาย" หรือ "สินค้าที่ลงบัญชีไว้" (จ่ายเงินค่าสินค้าไปแล้ว แต่ตรวจสอบ สต๊อก กลับไม่มีอยู่จริง หรือมีไม่ครบ

          หายไปมูลค่า "2,100 ล้านบาท"

          อ่านว่า สองพันหนึ่งร้อยล้านบาท

          ถามว่า เป็นเรื่องใหญ่ไหม? เจ้าของบริษัทจะต้องไปแจ้งความเอาผิดใครไหม?

 

1.ก่อนหน้านี้ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาเรื่องข้อมูลวัตถุดิบคงคลังในระบบของบริษัทมีจำนวนที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่มีอยู่จริง ณ สถานที่เก็บรักษาวัตถุดิบที่ฝากไว้กับคู่ค้า ระบุว่า วัตถุดิบคงคลังส่วนที่ขาดหายไป คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,100 ล้านบาท

 

2.บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) มีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ  PTTGC  ถือหุ้นอยู่กว่า 72% ขณะที่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ถือหุ้นอยู่กว่า 48% แน่นอน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ปตท. ก็คือ กระทรวง การคลัง ถือหุ้นอยู่ 51%

เรื่องนี้ จึงกระทบต่อผลประโยชน์ของแผ่นดินและสาธารณชนโดยตรง

 

3.เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ คณะกรรมการ GGC เร่งดำเนินการและเปิดเผยผลการ ตรวจสอบกรณีวัตถุดิบคงคลังสูญหาย

 

 

โดยให้คณะกรรมการบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) ชี้แจงกรณีข้อมูลวัตถุดิบคงคลัง ในระบบแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณวัตถุดิบคงคลัง ที่มีอยู่จริง และประเมินความเพียงพอของระบบควบคุมภายในพร้อมทั้งเปิดเผยผลการตรวจสอบให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไป ผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน วันที่ 31 กรกฎาคม 2561

 

ประเด็นสำคัญ คือ

วัตถุดิบคงคลังในระบบของบริษัท มีจำนวนที่แตกต่าง กับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่มีอยู่จริง ณ สถานที่เก็บรักษาวัตถุดิบที่ฝากไว้กับคู่ค้าและพบการดำเนินงานของพนักงานจำนวนหนึ่งใน หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดซื้อและรับวัตถุดิบ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติงาน หรือกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และอาจมีความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัท

วัตถุดิบคงคลังส่วนที่ขาดหายไป จะต้องทวงถาม หรือติดตามคืน คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,100 ล้านบาท

 

4.นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต.) เคยยืนยันว่า ในกรณีที่พบการทุจริตภายใน บริษัทเป็นหน้าที่ของคณกรรมการและ ผู้บริหารที่ต้องรับผิดชอบดูแลให้บริษัทดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลที่กระทำความผิดโดยไม่ชักช้า และหากพบว่า มีบุคคลใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ก.ล.ต. จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทราบว่า คณะกรรมการ GGC ได้ตั้ง คณะทำงานขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณี ดังกล่าวแล้ว

 

บัดนี้ ครบกำหนดวันที่ 31 กรกฎาคม 2561

ผลสอบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร? บริษัท GGC จะดำเนินการอย่างไรต่อไป?

ก.ล.ต. จะทำอย่างไรต่อไป? จะรักษาความเชื่อมั่น ในระบบตลาดหลักทรัพย์ไทยไว้อย่างไร? กับกรณีที่อยู่ๆ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เกิดกรณีว่า ของหายกว่า 2,100 ล้านบาทเช่นนี้?

 

ตกลงว่า ของหาย หรือใครทุจริต?

 

 

 

 

 

 

 
 
 
 

#ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw